เลเซอร์ไฟเบอร์ เซ็นเซอร์เทคโนโลยีรูปแบบใหม่

ด้วยความรุดหน้าของเทคโนโลยี ล่าสุดทีมนักพัฒนาจากประเทศจีน ก็ได้ทำการพัฒนาเลเซอร์ใยแก้วนำแสงที่ออกแบบมาเพื่อเป็นอุปกรณ์สวมใส่ เพื่อให้สามารถถ่ายภาพในร่างกายของมนุษย์ได้ ซึ่งถือเป็นวัฒนาการทางด้านการแพทย์ที่ก้าวหน้าไปอีกขั้น

เซ็นเซอร์ใยแก้วนำแสงหรือเลเซอร์ไฟเบอร์

ล่าสุดนักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยี Photonics มหาวิทยาลัยจี่หนาน ในมณฑลกวางโจว ได้พัฒนาเทคนิคการถ่ายภาพโดยการใช้แสงเลเซอร์ โดยมีเทคนิคการใช้งานเป็นรูปแบบของการสวมใส่อุปกรณ์เพื่อช่วยวินิจฉัยทางการแพทย์
โดยการทำงานของเลเซอร์จะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบกับความยืดหยุ่นในเส้นใยแสง เพื่อให้ทำงานควบคู่ไปกับทำงานของคลื่นอัลตร้าซาวด์ที่มีการแพร่กระจายเป็นคลื่นทรงกลม และมีความไวค่อนข้างต่ำ  เพื่อให้สามารถใช้ในการวินิจฉัยทางด้านการแพทย์ได้ดียิ่งขึ้น

ลักษณะการทำงานของเซ็นเซอร์ใยแก้วนำแสง

ด้วยคุณสมบัติการแพร่กระจายที่กะทัดรัดมากขึ้น เพื่อให้ภาพถ่ายที่ดีกว่า ภายในแกนหลักของเส้นใยแสงมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 8 มม. เพื่อสร้างเป็นกระจกสะท้อนสองเส้นเข้ากับแกนเส้นใยด้วยแสงอัลตราไวโอเลต ผ่านเส้นใยแก้วที่ถูกเจือด้วย ytterbium และ erbium เพื่อแปลงเป็นแสงเลเซอร์ เพื่อเริ่มต้นการทำงานของเลเซอร์โดยใช้เลเซอร์เซมิคอนดักเตอร์ขนาด 980 nm จากเส้นใยแสงที่มีความยาวเพียง 8 มม. จากนั้นจึงปล่อยแสงที่ความยาวคลื่น 532 nm ออกมา
เมื่อเลเซอร์เส้นใยเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากคลื่นอัลตร้าซาวด์ขนานกับความยาวเส้นใย จะเปลี่ยนรูปคลื่นที่ได้ผ่านการปรับความถี่ ทำให้สามารถตรวจจับการเปลี่ยนความถี่และสามารถสร้างเป็นรูปคลื่นเสียงได้

รูปแบบของการทำงานของคลื่นที่ถูกคิดค้นขึ้นมานี้ มีชื่อว่า self-heterodyning ซึ่งเป็นการทำงานโดยผสมเอาคุณสมบัติของ 2 ความถี่มาผสมกัน ทำให้เกิดข้อได้เปรียบและทำให้เอาต์พุตสัญญาณที่ได้มีเสถียรภาพมากขึ้น โดยได้มีการนำเลเซอร์ที่ว่านี้ไปทดสอบโดยการศึกษาหลอดเลือดในหูของหนูทดลอง ซึ่งสามารถแสดงภาพการกระจายออกซิเจนมาเพื่อใช้ทำการวินิจฉัยได้อย่างชัดเจน แสดงให้เห็นว่าเซนเซอร์ตัวนี้มีศักยภาพในการทำงานมาก และจะได้พัฒนาเพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยด้านการแพทย์ในกรณีอื่น ๆ ต่อไป

นับวันก็ยิ่งมีการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งถือเป็นข้อดีมากกว่าข้อเสียโดยเฉพาะเทคโนโลยีทางด้านการแพทย์ เนื่องจากจะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัยและเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการรักษา ทำให้สามารถช่วยชีวิตคนไข้ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าหลังจากที่ได้มีการคิดค้นเลเซอร์ไฟเบอร์ตัวนี้ขึ้นมาแล้ว จะสามารถนำไปใช้งานจริงเพื่อวินิจฉัยโรคและช่วยเหลือผู้ป่วยรวมถึงคนไทยจะได้มีโอกาสใช้เทคโนโลยีตัวนี้ได้จริงเมื่อไหร่

 

Continue Reading

ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ Bitcoin ควรได้รับการควบคุม

                บิทคอยน์ถือเป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลซึ่งกำลังเป็นที่สนใจ และได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานหรือสถาบันการเงินใด ๆ เข้ามากำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัลตัวนี้ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มมีความเป็นห่วงกลุ่มผู้ใช้ที่มีความเสี่ยง รวมถึงการทำธุรกรรมที่เป็นการหลีกเลี่ยงกฎหมาย หรือการฟอกเงินผ่านบิทคอยน์ที่หลายฝ่ายกำลังเป็นกังวล

คณะสภาผู้แทนฯ อังกฤษเห็นควรเริ่มกำหนดมาตรการในการควบคุมบิทคอยน์   

                ล่าสุดคณะสภาผู้แทนฯ อังกฤษ มีความเห็นว่า Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ จำเป็นที่จะต้องได้รับการควบคุมเพื่อปกป้องนักลงทุน เพราะขณะนี้บิทคอยน์ยังมีราคาที่ผันผวนสูง ซึ่งทำให้ผู้บริโภคมีความเสี่ยง รวมถึงเรื่องของการแฮ็กระบบ และการใช้เป็นช่องทางฟอกเงินก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงเช่นเดียวกัน เนื่องจากปัจจุบันสกุลเงินดิจิตอลที่เรียกว่า crypto-assets เหล่านี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาทำการกำกับดูแลในการออกสินทรัพย์ และไม่มีกลไกใด ๆ ที่จะมาควบคุมการซื้อขายและเปลี่ยน

กว่า 1,500 สกุลเงินดิจิตอลที่มีการซื้อขายและยังไม่มีกลไกการควบคุม 

นอกจากบิทคอยน์แล้วในปัจจุบันยังมีสกุลเงินดิจิตอลและ crypto-assets มากกว่า 1,500 ชนิดที่มีการซื้อขายในตลาดประมาณ 190 แห่งทั่วโลก ซึ่งล้วนมีราคาขึ้นลงผันผวนสูงอย่างต่อเนื่อง ในปี 2017 ราคาของ Bitcoin พรวดลงไปเกือบ 15,000 ปอนด์ ทำให้มูลค่าของบิทคอยน์ลดลงไปถึง 2 ใน 3 ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน รวมถึงวิธีการของ crypto-assets ที่มีการเสนอขายเหรียญขั้นต้นให้กับนักลงทุน ยังเป็นสิ่งที่หน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกเป็นห่วง และเล็งเห็นถึงความสำคัญในการเข้ามากำกับดูแลสกุลเงินและสินทรัพย์เหล่านี้อย่างเอาจริงเอาจัง

ขณะนี้รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศอังกฤษกำลังตัดสินใจว่าควรจะมีการออกกฎระเบียบในการกำกับดูแลหรือไม่ ซึ่งในระหว่างนี้ผู้บริโภครวมถึงนักลงทุนที่มีการใช้สกุลเงินเหล่านี้ ก็ยังถือว่ามีความเสี่ยงและคำเตือนของรัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแล ก็คงไม่สามารถเข้าไปมีบทบาทในการลงทุนได้ แต่อย่างไรก็ตามก็คงต้องมีการออกระเบียบมากำกับดูแล โดยเน้นเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภคและการป้องกันการฟอกเงินเป็นหลักในเบื้องต้น

ปัจจุบันในประเทศอังกฤษมี บริษัท CryptoUK ซึ่งก่อตั้งขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นองค์กรกำกับดูแลตนเอง เพื่อคอยทำการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัลทั้งหลายเหล่านี้ซึ่งบริษัทฯ กล่าวว่า ได้รับคำแนะนำจากคณะกรรมการการคลัง ในการออกกฎระเบียบเพื่อการควบคุมตนเอง ซึ่งกำลังรอการตอบรับจากรัฐบาลเพื่อเข้ามาร่วมกำกับดูแลร่วมกัน โดยหลายฝ่ายเห็นว่าการกำกับดูแลตนเองถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพื่อนำไปสู่การออกกฎข้อบังคับเพื่อสร้างความปลอดภัยสำหรับการลงทุนของผู้บริโภค และเพื่อเป็นการป้องกันการทุจริต ก่อให้เกิดความชัดเจนกับอุตสาหกรรมเงินดิจิทัลที่กำลังเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก ส่วนในประเทศไทยก็คงต้องรอดูกันต่อไป ว่าสกุลเงินประเภทนี้จะมีหน่วยงานไหนเข้ามากำกับดูแลหรือไม่

 

Continue Reading

Mercedes-Benz เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกของโลก

                เมื่อวันที่ 4 กันยายน 61 ที่ผ่านมา ที่เมืองสต็อกโอม ประเทศสวีเดน ค่ายรถชั้นนำระดับโลกอย่าง Mercedes-Benz ก็ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ ที่สร้างความสนใจให้กับวงการรถยนต์ที่ใช้แบตเตอรี่ หรือรถยนต์ไฟฟ้าให้ฮือฮากันอีกยกใหญ่ เมื่อเบนซ์ ได้เปิดตัวรถ SUV ที่มีระยะทางการขับขี่ได้ถึง 450 กิโลเมตร พร้อมการออกแบบรูปทรงของรถที่มีความสวยงาม และการตกแต่งภายในที่หรูหรา พร้อมเทคโนโลยีที่ชาญฉลาด ไม่เสียชื่อค่ายรถชั้นนำระดับโลก

การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบครั้งแรกจากค่าย Mercedes-Benz

ในการเปิดตัวครั้งนี้ CEO ของ Mercedes-Benz ได้กล่าวว่า ค่ายเบนซ์กำลังวางแผนการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นกว่า 10 รุ่นภายในปี 2022 และเชื่อว่าในอนาคตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะมียอดขายเป็น 15 – 25% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดภายในปี 2025

การเปิดตัวครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ค่ายรถชั้นนำจากประเทศเยอรมณีกำลังเปิดศึกรถยนต์ไฟฟ้ากับค่าย Tesla ของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนมาใช้และสนใจรถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น เนื่องจากเริ่มราคาถูกกว่าและเป็นเจ้าของง่ายกว่ารถยนต์ใช้น้ำมันที่มีราคาแพง

นอกจากนี้ CEO ของค่ายเบนซ์ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า แผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของเบนซ์ถึง 10 รุ่นจะทำให้เบนซ์สามารถรองรับความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของตลาดได้ถึง 60%

รถยนต์ไฟฟ้าจากค่ายเบนซ์ คู่แข่งที่น่ากลัวของค่าย Tesla

ก่อนหน้านี้ค่าย Tesla ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังของโลก ยังไม่มีค่ายไหนเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวนัก และผู้บริโภคก็ยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อรถยนต์ไฟฟ้า บวกกับการยอมรับเงื่อนไขของการทำประกันแบบพรีเมียมจากค่าย Tesla ที่นำเสนอมาพร้อมกับการจำหน่ายรถยนต์ได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีข้อสงสัย แต่เมื่อเบนซ์เริ่มเข้ามาแข่งขันในตลาดนี้เช่นเดียวกัน ก็ถือเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่ Tesla จะต้องระวัง เพราะค่ายเบนซ์ได้รับการการันตีในเรื่องของคุณภาพมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในการผลิตรถยนต์มาก่อนค่าย Tesla อย่างนานนม แต่ทั้งนี้ค่ายเบนซ์เองก็ทราบดีว่า Tesla นี่แหละที่จะเป็นคู่แข่งสำคัญของเบนซ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของราคาที่ต้องติดตามกันต่อไปว่าเบนซ์จะลดราคาในสายการผลิตคุณภาพสูงมาแข่งกับค่ายอื่นได้มากน้อยแค่ไหน

ขณะนี้ Tesla มีรถยนต์ไฟฟ้าจำหน่าย 3 รุ่น ที่ถือเป็นคู่แข่งโดยตรงกับรถยนต์ไฟฟ้าของเบนซ์รุ่นที่ได้ทำการเปิดตัวเป็นครั้งแรกนี้ แต่เบนซ์ก็ยังมั่นใจว่ารถยนต์รุ่นนี้เป็นรถยนต์ประเภท SUV ซึ่งถือเป็นประเภทรถที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาด ที่มาพร้อมกับการทำงานโดยใช้แบตเตอรี่ไฟฟ้าครบวงจร ซึ่งก็คงต้องติดตามกันต่อในเรื่องยอดขายว่าเบนซ์จะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคในตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามากน้อยแค่ไหน

 

Continue Reading

Cyber Attack ภัยคุกคามยุคใหม่ ล่าสุดทำจอแสดงผลเที่ยวบินดับถึง 2 วัน

                ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับการดำเนินชีวิตของคนเรา ทำให้หลาย ๆ อย่างเปลี่ยนไปรวมถึงรูปแบบของการโจมตีและการคุกคามที่มาในรูปแบบดิจิตอล เป็นสิ่งที่พบเห็นและต้องระมัดระวังกันมากขึ้น เพราะล่าสุด ภัยไซเบอร์ไม่ได้เป็นการคุกคามเพื่อประโยชน์ส่วนบุคคลหรือการโจรกรรมเท่านั้น แต่ได้ลุกลามสร้างความเดือดร้อนไปยังระบบขนส่งสาธารณะอย่างในสนามบิน ทำให้การเดินทางของผู้คนต้องเกิดความติดขัดและโกลาหลกันไม่น้อย

ไซเบอร์ แอทแทค ทำหน้าจอแสดงผลเที่ยวบิน สนามบินบริสตอล ประเทศอังกฤษ ล้มเหลว 2 วัน

                เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 14 กันยายน 61 ที่ผ่านมา โดยโฆษกของสนามบินได้รายงานว่าสาเหตุที่หน้าจอแสดงผลตารางเที่ยวบินของสนามบินเกิดการขัดข้อง มีสาเหตุมาจากการโจมตีในลักษณะคล้ายกับ “ransomware” ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการแก้ไขให้หน้าระบบหน้าจอแสดงผลสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติอีกครั้ง รวมถึงจะต้องทำการรวมรวมตารางการเดินทางเข้า-ออก เพื่อให้ระบบสามารถกลับมาสู่การออนไลน์แบบอัตโนมัติได้ ซึ่งในการถูกคุกคามครั้งนี้ไม่ได้มีการเรียกค่าไถ่จากผู้โจมตีเพื่อให้ระบบกลับมาใช้งานได้แต่อย่างใด

Ransomware มัลแวร์เรียกค่าไถ่ ขู่ลบไฟล์ถ้าไม่ได้เงิน

Ransomware เป็นรูปแบบของมัลแวร์หรือไวรัสคอมพิวเตอร์ ที่ผู้ถูกคุมคามมักจะได้รับคำขู่ว่าจะลบไฟล์ถ้าไม่มีการจ่ายเงินหรือการจ่ายค่าไถ่ให้ ซึ่งโฆษกสนามบินกล่าวว่าได้ตรวจพบ การพยายามโจมตีโดยเข้ามาออนไลน์ในระบบทำให้สนามบินต้องเปลี่ยนมาใช้ระบบออฟไลน์แทนระบบออนไลน์อัตโนมัติ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการเข้าถึงข้อมูลของมัลแวร์ ซึ่งหากมีการเข้าถึงข้อมูลการบินและเที่ยวบิน อาจทำให้เกิดผลกระทบอันนำมาซึ่งความเสียหายร้ายแรงได้

รายงานกล่าวว่าการโจมตีครั้งนี้เป็นการทำเพื่อเรียกร้องผลประโยชน์มากกว่าการมุ่งเป้าหมายเพื่อโจมตีสนามบินบริสตอล ซึ่งในขณะนี้ระบบความปลอดภัย รวมถึงเที่ยวบินยังไม่ได้รับผลกระทบ เพียงแต่ต้องเปลี่ยนการแสดงผลเที่ยวบินจากระบบออนไลน์มาเป็นระบบเขียนด้วยมือ รวมถึงการใช้แผ่นป้ายและกระดานดำแทนหน้าจอแสดงผลเท่านั้น ซึ่งในการแก้ระบบครั้งนี้ค่อนข้างจะใช้เวลานาน เพื่อให้แน่ใจในเรื่องของความปลอดภัยด้วยความระมัดระวังมากที่สุด และทางสนามบินต้องมั่นใจว่าปัญหาทั้งหมดจะได้รับการแก้ไขได้อย่างลุล่วงแล้ว ถึงจะกลับมาใช้งานระบบออนไลน์ได้ตามปกติ

ภัยไซเบอร์ในรูปแบบของมัลแวร์ ไวรัส ที่แฝงตัวเข้ามาเพื่อขโมยข้อมูลไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลของหน่วยงานต่าง ๆ เป็นภัยคุกคามที่ต้องระวังกันมากขึ้น เนื่องจากสามารถสร้างผลกระทบทั้งในเรื่องของข้อมูลส่วนบุคคล สร้างความเสียหายกับชื่อเสียง ทรัพย์สิน ไปจนถึงการโจมตีระบบที่เกี่ยวข้องกับสาธารณะและคนหมู่มาก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรงได้

 

Continue Reading

Payment Application การเติบโตที่รวดเร็ว และการใช้เงินสดที่น้อยลง

                ในประเทศไทย หลายคนคงจะคุ้นเคยกับการจ่ายเงิน จ่ายบิลหรือชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ ผ่านทางธนาคารออนไลน์กันเป็นอย่างดี เนื่องจากช่วยให้สะดวก รวดเร็ว ไปไหนมาไหนก็ไม่จำเป็นต้องหาตู้เอทีเอ็มเพื่อคอยกดและพกเงินสด แถมยังไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม หรือถึงจะต้องเสียค่าธรรมเนียมก็มีอัตราที่ถูกกว่าการทำรายการที่หน้าตู้หรือเคาน์เตอร์ธนาคารเสียอีก ซึ่งนอกจากธนาคารออนไลน์ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีแล้ว ในต่างประเทศยังได้นิยมใช้ Payment Application ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงกับบัญชีธนาคารหรือเงินในบัญชีของเรา เพื่อให้การโอน จ่าย ชำระบิล ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายผ่านธนาคารเดียวกันหรือต่างธนาคารก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย แถมยังมีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่าอีกด้วย เพียงเข้าไปทำรายการผ่านแอปพลิเคชันนั้น ๆ เพียงแอปเดียว

3 Payment Application ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

  • PayPal ถือเป็นแอปพลิเคชันที่ใช้สำหรับการใช้จ่ายและชำระเงินที่รู้จักกันเป็นอย่างดี โดยการเริ่มดำเนินการเป็นกระเป๋าสตางค์ออนไลน์มาตั้งแต่ปี 2541 เพื่อใช้ชำระเงินสำหรับคนที่ต้องการซื้อสินค้าผ่านทางเว็บอีเบย์ ทำให้ PayPal กลายเป็นที่รู้จักและนิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลายมาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากช่วยให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้รับความสะดวก สามารถโอนเงินเข้า ออกจากบัญชีธนาคารในประเทศสหรัฐอเมริกาและบัญชีในต่างประเทศอีกหลายประเทศได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการโอนจากยอดเงินในบัญชี PayPal หรือยอดเงินในบัญชีธนาคาร แต่ PayPal จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากบัตรเครดิตหรือการแปลงสกุลเงิน
  • Venmo อีกหนึ่งแอปในเครือ PayPal แต่แตกต่างเนื่องจากถูกออกแบบมาให้เพื่อโอนเงินให้เพื่อนโดยเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สำหรับกลุ่มวัยรุ่นในเมืองใหญ่ ๆ เช่น เมื่อเข้าไปรับประทานอาหารต่าง ๆ ก็ต้องแชร์ค่าอาหารกัน หรือการแชร์ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ซึ่งแอปจะอำนวยความสะดวกให้สามารถโอนเงินให้เพื่อนได้ออย่างง่ายดายผ่านบัญชีเดบิตของธนาคารที่ได้ลิงก์เอาไว้
  • Square Cash เป็นลักษณะคล้ายบัตรเครดิตอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายกับ Venmo ให้สามารถโอนเงินระหว่างคนที่ใช้แอปนี้ด้วยกันผ่านทางบัญชีธนาคารที่เชื่อมโยงผ่านบัตรเดบิตได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังใช้เป็นกระเป๋าสตางค์เช่นเดียวกับ PayPal ได้อีกด้วย

ใครที่เคยทำการซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เชื่อว่าคงจะคุ้นเคยกับแอปพลิเคชันเหล่านี้กันมาบ้าง แต่หากใครที่ยังไม่เคยใช้ก็ควรต้องศึกษาหาความรู้แล้วลองไปสมัครใช้กันดู รับรองว่าจะทำให้คุณสะดวกโดยเฉพาะเมื่อต้องทำธุรกรรมระหว่างประเทศ จะช่วยลดอัตราค่าธรรมเนียมลงไปได้มาก หรือไม่แน่เมื่อแอปเหล่านี้แพร่หลายเข้ามาเชื่อมต่อกับธนาคารในประเทศไทย ต่อไปการจ่ายเงินให้เพื่อนฝูงและครอบครัวก็อาจไม่จำเป็นต้องพึ่งเงินสดกันอีกเลย

 

Continue Reading