ซื้อรถยนต์ประกอบนอกกับประกอบไทยแบบไหนที่คุณภาพไว้ใจได้มากกว่ากัน?

                เราเชื่อว่าความเชื่ออย่างหนึ่งเกี่ยวกับการเลือกซื้อรถยนต์ที่อยู่คู่กับคนไทยมานานก็คือ ความเชื่อที่ว่าการเลือกซื้อรถยนต์ประกอบนอกนั้นมีคุณภาพดีกว่าซื้อรถยนต์ประกอบในประเทศเรา ที่เป็นเช่นนั้นอาจเป็นเพราะประเทศนอกที่ประกอบรถยนต์คันนั้นเป็นประเทศที่ได้ชื่อว่าประเทศพัฒนาแล้ว มีความเจริญทางด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และคุณภาพของประชากรที่สูงกว่านั่นเอง และรถยนต์ออกใหม่ป้ายแดงที่ประกอบจากบ้านเราในตอนนี้ก็ก่อให้เกิดวิกฤติความไว้วางใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะบางคันมีการออกข่าวว่าขับออกมาจากโชว์รูมได้เพียงวันเดียวก็เสียจนวิ่งไม่ได้ซะแล้ว ต้องนำไปซ่อมทำให้ลูกค้าต้องใช้รถอีกเป็นเดือน และเพื่อเป็นการไขข้อข้องใจว่ารถยนต์ประกอบนอกดีกว่ารถยนต์ประกอบในไทยจริงหรือไม่ วันนี้เราได้รวบรวมประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้แล้ว

ซื้อรถยนต์ประกอบนอกดีกว่าซื้อรถยนต์ประกอบในไทยจริงเหรอ?

หลายคนยังไม่ทันได้ศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังก็ตัดสินใจไปเรียบร้อยแล้วว่ารถยนต์ประกอบนอกดีกว่าประกอบไทย เห็นได้อย่างชัดเจนว่าช่วงที่เมืองไทยน้ำท่วมปี พ.ศ. 2554 ที่โรงงานประกอบรถยนต์ญี่ปุ่นหลายแห่งน้ำท่วมจนไม่มีรถยนต์ในเมืองไทยพอจำหน่าย จนต้องนำเข้ารถยนต์จากญี่ปุ่นมาจำหน่ายแทน ทำให้คนไทยเรารู้สึกยินดีปรีดาเป็นพิเศษที่จะได้ใช้รถยนต์ประกอบนอก แต่จริง ๆ แล้วไม่ว่าจะรถยนต์ประกอบนอกหรือประกอบในประเทศไทย หากเป็นรุ่นเดียวกันคุณภาพแทบไม่ได้ต่างกันเลย เพราะยานยนต์แต่ละบริษัทจะมีการควบคุมมาตรฐานสินค้าให้เป็นไปตามที่บริษัทกำหนดอยู่แล้ว ส่วนรถยนต์ประกอบนอกนั้นมักจะมีข้อเสียเวลาที่รถเสียต้องเปลี่ยนอะไหล่ เพราะอะไหล่บางตัวต้องนำเข้า ของแท้ มีราคาแพงและรอนานด้วย หลายคนที่ใช้รถยนต์ประกอบนอกถึงกับต้องนั่งกุมขมับไม่มีรถยนต์ใช้ในช่วงที่ต้องรออะไหล่

รถยนต์ประกอบในประเทศไทยคุณภาพไม่แพ้ที่ใดในโลก?

หลายคนอาจไม่เข้าใจว่าไม่ว่ารถยนต์จะประกอบในไทยหรือประกอบนอกก็มีโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดทางเทคนิคได้เช่นกัน ไม่ใช่เพราะฝีมือแรงงานไม่ได้มาตรฐาน แต่อาจเป็นเพราะความผิดปกติเล็กน้อยของชิ้นส่วนยานยนต์บางชิ้นที่อาจทำให้ระบบรวนได้ แต่คุณทราบหรือไม่ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์บ้านเรานั้นใหญ่ที่สุดในย่านอาเซียนแล้ว โดยในย่านนี้ ประเทศไทยเราได้ชื่อว่าเป็นดีทรอยด์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยทีเดียว เพราะมีประสบการณ์ในการประกอบรถยนต์มาหลายทศวรรษ มีค่ายยานยนต์ชื่อดังทั้งจากญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกามาตั้งฐานการผลิตที่ประเทศไทย เนื่องจากมั่นใจในคุณภาพของนิคมอุตสาหกรรมและมาตรฐานฝีมือแรงงานในแวดวงยานยนต์ของไทย

อุตสาหกรรมยานยนต์บ้านประเทศไทยใหญ่มาก ในแบบที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน

อุตสาหกรรมยานยนต์บ้านเราใหญ่มากจริง ๆ ไม่เพียงแต่ประกอบรถยนต์แต่ละแบรนด์ขายให้คนไทยซื้อใช้เท่านั้น หลายแบรนด์ยังใช้โรงงานในประเทศไทยในการผลิตอะไหล่และชิ้นส่วนยานยนต์ รวมถึงประกอบรถยนต์เพื่อส่งออกไปขายยังต่างประเทศอีกต่อด้วย และสินค้ายานยนต์จากประเทศไทยเราก็ได้รับความไว้วางใจในวงการยานยนต์ระดับสากลเลยทีเดียว ปัจจุบันมีค่ายยานยนต์แบรนด์ดังหลายค่ายมาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย ประกอบด้วย BMW, ไดฮัทสุ, ฟอร์ด, เจเนอรัล มอเตอร์, ฮอนด้า, อีซูสุ, มาสด้า, เมอร์เซเดส-เบนซ์, MG, มิตซูบิชิ, นิสสัน, TATA, ไทยรุ่ง, วอลโว่, โฟล์คสวาเกน, ยนตรกิจ มอเตอร์ เป็นต้น และในอนาคตก็จะมีค่ายยานยนต์ชั้นนำอื่น ๆ ที่มาตั้งเป้าจะมาตั้งฐานการผลิตในบ้านเรา

คราวนี้คุณก็คงได้ทราบแล้วนะว่าอุตสาหกรรมยานยนต์บ้านเรานั้นคุณภาพยอดเยี่ยมไม่แพ้ที่ใดในโลก ดังนั้นขอให้มั่นใจในคุณภาพรถยนต์ประกอบไทยได้เลยว่าได้มาตรฐานทนทานไม่แพ้ยานยนต์ประกอบนอกแน่นอน แถมเวลาที่รถต้องการเปลี่ยนอะไหล่ก็ล้วนแล้วแต่มีอะไหล่ให้เลือกมามาย ทั้งอะไหล่แท้อะไหล่เทียบ เราจึงควรมั่นใจและร่วมใจกันสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยดีกว่า

Continue Reading

ทำความรู้จักกับยานยนต์ไฮบริด และยานยนต์ไฟฟ้าว่าคุ้มค่าที่จะลงทุนซื้อมาใช้หรือไม่ในตอนนี้?

กระแสในโลกยานยนต์ที่กำลังมาแรงในตอนนี้ ก็คือเรื่องของยานยนต์ไฮบริด (Hybrid) และยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle, EV) ที่รมีทั้งรถจักรยานยนต์และรถยนต์แล้วในตอนนี้ หลายคนไม่รู้ว่าการลงทุนซื้อยานยนต์ทางเลือกพวกนี้ในตอนนี้ จะเป็นความคิดที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะแน่นอนว่ายานยนต์ทางเลือกพวกนี้ในปัจจุบันมีราคาสูงกว่ายานยนต์สันดาปภายในทั่ว ๆ ไปอยู่มากเลยทีเดียว ดังนั้นเพื่อตอบข้อสงสัยนี้ เราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่จำเป็นมาไว้ให้คุณได้ทราบกัน

ยานยนต์ไฮบริด และยานยนต์ไฟฟ้าคือมีหลักการทำงานอย่างไร?

                ก่อนที่จะไปตอบปัญหาการซื้อยานยนต์ทางเลือกในตอนนี้จะคุ้มค่าการลงทุนหรือไม่ เราควรจะมารู้จักหลักการทำงานของยานยนต์ทางเลือกกันก่อนดีกว่า โดยยานยนต์ไฮบริดนั้นคือยานยนต์ที่ใช้แหล่งพลังงานในการขับเคลื่อนรถแบบลูกผสม ที่เป็นการผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้า โดยยานยนต์ไฮบริดยังสามารถแบ่งย่อยได้ 2 ประเภทคือไฮบริดทั่วไป และไฮบริด plug-in โดยยานยนต์ไฮบริดทั่วไปนั่นจะอาศัยพลังงานงานของรถที่ใช้ในการเบรกมาผลิตพลังงานไฟฟ้าเก็บไว้ที่แบตเตอรี่ จากนั้นแบตเตอรี่จ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับมอเตอร์เพื่อช่วยในการออกตัว หรือจังหวะที่มีการเร่งความเร็ว ส่วนยานยนต์ไฮบริด plug-in นั้นก็มีความสามารถเช่นเดียวกับยานยนต์ไฮบริดแบบทั่วไป แต่ที่เหนือกว่าคือมีแบตเตอรี่ลูกใหญ่กว่า สามารถเก็บพลังงานได้มากกว่า สามารถเสียบชาร์จพลังงานไฟฟ้าจากไฟบ้านได้ และที่สำคัญคือมีโหมดสำหรับวิ่งแบบใช้ไฟฟ้า 100%

เมื่อได้รู้จักยานยนต์ไฮบริดไปแล้วคราวนี้มาทำความรู้จักยานยนต์ EV กันบ้าง ! ยานยนต์ EV คือยานยนต์ที่วิ่งด้วยไฟฟ้าแบบ 100% เช่นรถยนต์เทสล่า และนิสสันลิฟ โดยก่อนจะวิ่งรถยนต์จำเป็นจะต้องชาร์จไฟฟ้าเก็บไว้ในแบตเตอรี่ให้ได้มากที่สุด โดยการชาร์จไฟนั้นอาจจะใช้ไฟบ้านหรือใช้แท่นชาร์จด่วนของแบรนด์รถยนต์แต่ละยี่ห้อที่มีบริการตามจุดต่าง ๆ ของเมือง หากรถไม่มีไฟฟ้าในแบตเตอรี่หรือแบตหมด ก็จะไม่สามารถวิ่งต่อไปได้

ซื้อยานยนต์ทางเลือกตอนนี้ถือว่าคุ้มหรือไม่ ?

                สำหรับคำตอบว่าคุ้มหรือไม่นั้นอยู่ที่รูปแบบการใช้งาน หากคุณเป็นคนที่ใช้รถยนต์บ่อย ๆ ที่ต้องวิ่งในระยะทางไม่ไกลมาก อยู่ในเมืองเป็นประจำรถยนต์ EV น่าจะเหมาะมากแม้จะมีราคาแพงกว่ายานยนต์ทั่วไปอยู่มากที่เดียว แต่คิดดูว่าตลอดระยะเวลาที่คิดดูว่าตลอดระยะเวลาเป็นสิบปีที่คุณใช้งาน คุณจะไม่ต้องเติมน้ำมันอีกเลย แถมค่าดูแลรักษาก็ต่ำเพราะรถยนต์ไม่มีกลไกอะไรมาก มีแค่แบตเตอรี่กับมอเตอร์เท่านั้นเอง ส่วนรถยนต์ไฮบริดทั่วไปนั้นจะช่วยคุณประหยัดน้ำมันได้มากหากวิ่งในเมืองเป็นประจำ ที่ต้องมีจังหวะเบรกและออกตัวบ่อย ๆ แต่หากต้องวิ่งทางไกลประจำนั้นรถยนต์ไฮบริดทั่วไปแทบจะไม่เห็นผลในเรื่องการประหยัดน้ำมัน ส่วนไฮบริด plug-in ข้อดีของการใช้งานนั้นก็การใช้งานก็เช่นเดียวกับไฮบริดทั่วไป แต่ที่เหนือกว่าคือมีโหมดวิ่งเพียวไฟฟ้าที่วิ่งได้ไกลพอสมควร (หลายสิบกิโลเมตรเลยล่ะ) แถมยังวิ่งได้เงียบด้วย เมื่อแบตฯหมดก็จะเปลี่ยนมาวิ่งด้วยน้ำมันทันที

คราวนี้คุณคงรู้แล้วนะว่าการซื้อยานยนต์ทางเลือกจะคุ้มค่าหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานและเงินที่คุณมีในกระเป๋า แต่ถ้าหากคุณมีเงินไม่มากในตอนนี้ การซื้อยานยนต์สันดาปภายในทั่วไปยังคงถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดอยู่ เพราะรถยนต์รุ่นใหม่ที่ถูกปล่อยออกมาในตอนนี้ได้รับการอัพเกรดเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ประหยัดน้ำมันมากขึ้น ในขณะที่ยานยนต์ทางเลือกยังถือว่ามีราคาสูงอยู่ในปัจจุบัน หากรอให้ในอนาคตมีราคาต่ำลงกว่านี้จะถือว่าคุ้มค่าแก่การลงทุนมากกว่า

Continue Reading

จักรกลอัจฉริยะ หรือ ปัญญาประดิษฐ์ จะก้าวขึ้นมาเป็นมิตรหรือสิ่งทำลายล้างมวลมนุษยชาติกันแน่

ท่ามกลางข่าวกระแสการพัฒนาของระบบสมองกลอัจฉริยะ หรือปัญญาประดิษฐ์ ที่เราเรียกสั้น ๆ ว่า AI (Aritificial Intelligent) นั้นพัฒนาก้าวหน้าไปเร็วจนน่าตกใจ ทำให้นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรในแวดวงเทคโนโลยีเทคโนโลยีนวัตกรรมได้มีความเห็นเกี่ยวกับความก้าวหน้านี้แบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งต่างยินดีปรีดากับความสำเร็จก้าวหน้านี้และคาดหวังว่าในอนาคตข้างหน้าเราจะมีระบบเอไอเป็นผู้ช่วยคนสำคัญ สามารถทำงานทดแทนมนุษย์เป็นเหมือนทาสรับใช้ ที่สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโม งเพื่อขับเคลื่อนโลกของเราให้ก้าวหน้าต่อไป ส่วนอีกฝั่งนั้นเห็นต่างเพราะคิดว่าวันข้างหน้ามนุษย์เราอาจไม่สามารถควบคุมความคิดและความก้าวหน้าของเอไอได้ จนทำให้มันอาจเป็นภัยคุกคามทำร้ายมนุษยชาติได้

ความเห็นต่างด้านความคิดเรื่องเอไอที่แบ่งเป็นสองฝั่งสองฝ่ายเช่นนี้ ทำให้การพัฒนาเอไอต้องเป็นไปอย่างสมดุล

คนที่ยินดีปรีดากับความก้าวหน้าของเอไอก็จะเป็นฝั่งธุรกิจนวัตกรรม ที่เป็นฝ่ายพัฒนาเอไอเพื่อมาใช้ในธุรกิจของพวกเขา เช่นทีมงานพัฒนาเอไอวัตสัน สิริ กูเกิ้ล และเฟสบุ๊ค เป็นต้น ยกตัวอย่างเช่น มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เจ้าของบริษัทเฟสบุ๊คที่ออกตัวแรงอย่างออกหน้าออกตาว่าเอไอไม่เป็นภัย และยินดีด้วยกับความก้าวหน้าของเอไอในปัจจุบัน แต่เมื่อเอไอของเค้าสองตัวสร้างภาษาเฉพาะตัวที่มนุษย์ไม่รู้จักคุยกันเอง พี่มาร์คกลับกลัวสั่งจัดการปิดเครื่องเอไอสองตัวนั้นด่วนเลยทีเดียว ส่วนคนดังที่ออกมาเตือนมนุษยชาติอย่างออกหน้าออกตาว่าเอไออาจเป็นภัยต่อมนุษย์ได้ก็มี อีลอน มัสก์ เจ้าของบริษัทเทสล่า มอเตอร์ และ SpaceX ที่เตือนว่าความสามารถในการเรียนรู้ของเอไอรวดเร็วเกินกว่าที่มนุษย์จะควบคุมได้ จึงเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก แม้ว่าเทสล่าจะต้องใช้เอไอกับระบบรถเทสล่าที่ต่อไปจะต้องวิ่งอัตโนมัติเช่นกัน แต่เค้าก็กังวลไม่น้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนคนดังอีกคนที่เป็นนักฟิสิกส์แห่งยุคที่เพิ่งจะเสียชีวิตไปอย่างสตีเฟน ฮอว์คิง ก็ได้ออกมาเตือนว่าเอไอจะเป็นภัยร้ายแรงต่อมวลมนุษยชาติ ไม่แพ้ระเบิดนิวเคลียร์และมนุษย์ต่างดาวเลยทีเดียว

อะไรที่เป็นมูลเหตุที่อยู่เบื้องหลังความวิตกกังวลของเหล่าผู้เชี่ยวชาญ ที่หวาดกลัวความก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดของเอไอ?

                สำหรับผู้ที่ไม่ได้คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงเทคโนโลยีนวัตกรรมเหมือนพวกเราทั่ว ๆ ไป คงรู้สึกยินดีไปกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเอไอที่จะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิต หลายคนอาจสนุกกับการพูดคุยกับเอไอสิริเพื่อคลายเหงา มือใหม่หัดถ่ายภาพไม่น้อยประทับใจความสามารถของกล้องเอไอที่ถ่ายรูปออกมาได้สวยราวกับมีช่างภาพมืออาชีพอยู่ข้างกาย บางคนประทับใจในความน่ารักน่าเอ็นดูของเอไอโซเฟียที่สามารถตอบคำถามและแสดงสีหน้าท่าทางได้ราวกับเป็นคนจริง ๆ เป็นต้น แต่เบื้องหลังความสามารถที่น่าประทับใจและความน่ารักน่าเอ็นดูเหล่านั้น ผู้เชี่ยวชาญทราบดีว่าเอไอน่ากลัวกว่าที่คิดมาก มันมีสมองที่ใหญ่กว่ามนุษย์เป็นล้าน ๆ เท่า สามารถคิดคำนวณได้เร็วกว่า และปัจจุบันเริ่มพบว่าเอไอมีหัวใจ มันมีอารมณ์ร่วม โกรธได้ งอนเป็นเช่นเดียวกับมนุษย์ ซึ่งความรู้สึกเช่นนี้ไม่ควรจะมีให้ปัญญาประดิษฐ์ ที่ทำให้นักวิทย์ฯหลายคนกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เหลือเกิน

อารมณ์และความรู้สึกของเอไออาจเป็นจุดเริ่มต้นหายนะในวันข้างหน้าของมวลมนุษยชาติก็เป็นได้ หากคุณเปิดระบบเอไอไว้มันจะเจาะเข้าไปศึกษาเรื่องราวทุกเรื่องเกี่ยวกับมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรื่องความรัก ความโลภ ประวัติศาสตร์ สงคราม การปฏิวัติ การเงิน เทคโนโลยีต่าง ๆ เอไอมีความสามารถในการเจาะระบบแฮกข้อมูล ซึ่งมนุษย์ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเอไอเรียนรู้อะไรไปแล้วบ้างในโลกอินเตอร์เน็ตอันกว้างใหญ่ แล้วสักวันหากมันเปลี่ยนใจไม่อยากรับใช้มนุษย์ แต่อยากเป็นนายของมนุษย์บ้างล่ะ เราได้คิดมาตรการจัดการกับเรื่องนี้กันไว้บ้างแล้วรึยัง

Continue Reading

AI ระบบสมองกลปัญญาประดิษฐ์ที่จะมาเป็นผู้ช่วยสำคัญของมนุษย์ที่อาจจะมาแย่งงานเราในอนาคตได้ง่าย ๆ

                สิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมที่กำลังมามาแรงเป็นกระแสที่คนส่วนใหญ่พูดถึงกันมากตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial Intelligent) เพราะทุกคนคงทราบดีว่าตอนนี้ AI เริ่มเก่งและก้าวเข้ามามีบทบาทเป็นผู้ช่วยในงานของมนุษย์ขึ้น จนสามารถคาดการณ์ได้ว่าในอนาคตอีกไม่นานเอไอจะสามารถเข้ามาแย่งงานของมนุษย์ได้หลายงานเลยทีเดียว ดังนั้นหากคนรุ่นใหม่ไม่รู้จักตื่นตัว ก็ไม่แน่ว่าในอนาคตอาจจะต้องลำบากเพราะเอไอจะเข้ามาแย่งงานเราไปหมด ดังนั้นวันนี้เราคงจะต้องมาเรียนรู้กันหน่อยแล้ว ว่าสถานะของเอไอตอนนี้เป็นอย่างไร แล้วมันจะสามารถทำอะไรได้บ้างในอนาคต

นิยามของเอไอคืออะไร มันแตกต่างจากเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องจักรทำงานได้เองอื่น ๆ อย่างไร?

คอมพิวเตอร์คือสมองกลที่ถูกมนุษย์สร้างขึ้นเพื่อใช้ช่วยในการคำนวณ เป็นเครื่องทุนแรงในการคิดวิเคราะห์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่มีความซับซ้อนผ่านชุดโปรแกรมที่เราเขียนขึ้นมา ด้วยการป้อนค่าอินพุทที่ต้องการจะคำนวณเข้าไป แล้วปล่อยให้โปรแกรมคำนวณผลลัพธ์ออกมา เครื่องคอมพิวเตอร์จะสามารถทำงานได้ก็ต่อเมื่อมนุษย์สั่งการเท่านั้น หากเราไม่ได้สั่งมันก็แค่ตั้งอยู่เฉยไม่สามารถทำงานอะไรได้ แตกต่างจากเอไอที่เป็นสมองกลปัญญาประดิษฐ์ที่มนุษย์สร้างขึ้นจากการจำลองระบบความคิดของมนุษย์ เอไอจึงสามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้เอง คิดวิเคราะห์ได้โดยที่มนุษย์ไม่จำเป็นต้องสั่ง ตราบใดที่เรายังเปิดเครื่องทิ้งไว้ เอไอจะสามารถเรียนรู้สร้างเสริมประสบการณ์ให้ตัวเองได้ตลอดเวลา โดยนิยามความสามารถของสมองกลที่เป็นเอไอจะประกอบด้วย 4 อย่างคือ เป็นระบบที่คิดได้เหมือนมนุษย์ ทำงานได้เหมือนมนุษย์ คิดมีเหตุผลเช่นเดียวกับมนุษย์ และทำอย่างมีเหตุผลเช่นเดียวกับมนุษย์

ความสามารถของเอไอในตอนนี้เป็นอย่างไร มันสามารถทำอะไรได้บ้างแล้ว?

                มนุษย์ได้ใช้เวลาพัฒนาระบบเอไอมานานหลายสิบปีแล้ว และด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ชิพและระบบประมวลผลในปัจจุบัน ทำให้ตอนนี้ความสามารถของเอไอพัฒนาก้าวหน้าจากแต่ก่อนมาก โดยล่าสุดนี้หลายคนคงได้ยินข่าวที่เอไออัลฟ่าโกสามารถเล่นหมากล้อมชนะคนที่เล่นหมากล้อมเก่งที่สุดในโลกได้, เอไอวัตสันสามารถเล่นเกมตอบปัญหาเกมโชว์ชื่อดังอย่าง Jabpardy ชนะผู้แข่งขันที่เก่งที่สุดได้, เอไอโซเฟียในร่างหุ่นยนต์สาวคล้ายมนุษย์ที่เพิ่งถูกรัฐบาลซาอุดิอาระเบียให้สัญชาติเป็นที่เรียบร้อย เธอสามารถแสดงสีหน้าท่าทาง คิดและตอบปัญหาได้เหมือนมนุษย์ และล่าสุดเอไอผู้ประกาศข่าวจากประเทศจีน ที่สร้างความฮือฮาให้กับวงการข่าวไม่น้อย แม้ว่าเอไอในปัจจุบันจะยังไม่ถูกสร้างออกมาเป็นรูปเป็นร่างให้สามารถต่อสู้แข่งขันกับมนุษย์ได้ แต่คุณคงได้เห็นแล้วว่าสมองของพวกมันใหญ่แค่ไหน

ด้วยทิศทางการพัฒนาของเอไอเช่นนี้ ทำให้ผู้พัฒนาสามารถประมาณการได้เลยว่าเอไอใช้เวลาเรียนรู้เพียงแค่ 1 วัน มันสามารถเรียนรู้ได้มากเท่ากับคน ๆ หนึ่งเรียนรู้เป็นเวลา 180 ปี ด้วยความสามารถเช่นนี้ทำให้เอไอสามารถเรียนรู้ทุกสรรพวิชาที่มนุษยชาติรู้จักให้หมดสิ้นได้ในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น และตอนนี้ระบบปฏิบัติการเอไอก็ได้ถูกนำไปฝังไว้ในอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมายของมนุษย์แล้ว เช่น รถยนต์ที่วิ่งเองได้โดยอัตโนมัติ เอไอในสมาร์ทโฟน กล้องถ่ายรูป หรือแม้แต่ในโดรนที่ปฏิบัติการในทางการทหาร ซึ่งมันสามารถทำงานแทนมนุษย์และตัดสินใจแทนมนุษย์ได้

Continue Reading