เปิดตัวไอโฟนรุ่นล่าสุด iPhone XS XR มือถือจอใหญ่ เจอเนอเรชั่นใหม่ของไอโฟน

เปิดตัวกันไปแล้วเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมากับผลิตภัณฑ์ล่าสุดของค่ายแอปเปิ้ล ที่ครั้งนี้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งเรื่องราคาและสเปคก็หนาหูอีกเช่นเคย กับเจ้า iPhone XS และ XR วันนี้เราจึงจะได้นำเอาสเปคและคุณสมบัติคร่าว ๆ ของสมาร์ทโฟนแบรนด์ดัง มาสรุปให้เหล่าสาวกแอปเปิ้ลได้ทราบกัน

ไอโฟน XS ไอโฟนจอยักษ์ที่มาพร้อมระบบกราฟิกสุดเจ๋ง

ตอบรับความแฟน ๆ ที่ต้องการมือถือจอใหญ่ ที่ไอโฟนบอกว่าเป็นมือถือจอใหญ่ที่สุดและเป็นเจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดของไอโฟน ด้วยขนาดหน้าจอของรุ่น XS Max ที่ใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว ส่วน รุ่น XS มีขนาดจอภาพ 5.8 นิ้ว มาพร้อมรูปทรงที่หรูหราสมราคาอีกเช่นเคย แตกต่างด้วยขอบที่คราวนี้ออกแบบโดยใช้แสตนเลสสตีลโลหะผสมชนิดพิเศษ มีให้เลือก 3 สี คือ สีทอง สีเงิน และสีดำ ส่วนสเปคภายในตัวเครื่องโดยเฉพาะเรื่องของความเร็ว iphone XS ใช้ชิพ A12 Bionic ให้ประสิทธิภาพกราฟิกที่สูงขึ้นถึง 50% Neutral Engine แบบ 8 Core ทำให้สามารถประมวลผลการทำงานเร็วขึ้นสูงสุดถึง 15% ในขณะที่ช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าถึง 50%

มาถึงเรื่องกล้องที่หลายคนรอคอยว่ารุ่นนี้จะมี Feature ใหม่อะไรที่น่าสนใจทำให้ต้องควักเงินในกระเป๋ากันบ้าง คราวนี้ iphone มาพร้อมระบบกล้องคู่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การถ่ายภาพของคนยุคใหม่ได้อย่างเต็มที่ เรียกว่าไอโฟนเครื่องเดียวจบไม่ต้องพกกล้องตัวใหญ่ให้วุ่นวายและยุ่งยาก เสริมด้วยฟังก์ชัน HDR ที่ให้คุณสามารถเก็บรายละเอียดในการถ่ายภาพได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไฮไลท์ แสงและเงา อีกทั้งยังมีเซ็นเซอร์ที่ดีเร็วขึ้นกว่าเก่า และอีกหนึ่งฟังก์ชันยอดฮิตที่ถูกพัฒนาให้มีการควบคุมระยะชัดลึกเบลอฉากหลังได้ดียิ่งขึ้น สำหรับการถ่ายโบเก้หน้ชัดหลังเบลอที่รับรองว่าสาย Portrait จะต้องชื่นชอบ

ไอโฟน XR อีกหนึ่งรุ่นใหม่ ทางเลือกของคนมีงบน้อยกว่า

                แน่นอนว่าทุกครั้งของการเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ เมื่อมีรุ่นท็อปไปแล้วก็ต้องมีรุ่นรอง สำหรับ ไอโฟนรุ่น XR หน้าจอก็จะเล็กลงมาหน่อยคือมีขนาด 6.1 นิ้ว มีลูกเล่นดึงดูดใจวัยรุ่นด้วยสีสันของตัวเครื่องด้วยการลงสีแบบ 7 ชั้นบนผิวกระจกด้านหลังของตัวเครื่อง ส่วนข้อแตกต่างกับรุ่น XS ที่เป็นตัวท็อปซึ่งมีข้อเปรียบเทียบกันได้อย่างชัดเจนก็คือเรื่องกล้อง สำหรับ รุ่น XR นั้นจะยังเป็นกล้องเดี่ยวไม่ใช่กล้องคู่ เพราะฉะนั้นใครที่ชอบถ่ายรูปถ้าจะให้ได้ฟังก์ชันแบบเต็มสูบเห็นทีจะต้องเสียเงินซื้อรุ่นใหญ่มาใช้กัน

ส่วนเรื่องสนนราคา ตอนนี้ราคาไทยยังไม่เปิดตัวเป็นทางการ แต่ iphone XS นั้นมีให้เลือกตั้งแต่ความจุ 64 GB 356 GB และ 512 GB คาดว่าจะมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 40,000 บาท ส่วน iphone XR มีให้เลือกตั้งแต่ความจุ 64 GB 128 GB และ 256 GB ราคาเริ่มต้นน่าจะอยู่ที่ประมาณ 29,500 บาท

 

Continue Reading

Big Data คืออะไรทำไมต้องจับตามอง

                ในโลกแห่งเทคโนโลยี ที่ข้อมูลข่าวสารมีมากมาย และหลั่งไหลมาจากหลายแหล่ง ทำให้ปัจจุบันได้มีการนำเอาข้อมูลต่าง ๆ มาจัดเก็บเป็นชุดข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์กับองค์กร ภาคธุรกิจ สังคม เศรษฐกิจ การเมือง การตลาด รวมถึงเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งในทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เราเรียกการเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ลักษณะนี้ว่า Big Data วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับคำว่า Big Data ให้มากขึ้น และไปทราบถึงวิธีการนำเอาข้อมูลมากมายและหลากหลายเหล่านี้มาใช้ประโยชน์กัน

Big Data คืออะไร

                Big Data หรือที่เรียกได้เป็นภาษาไทยว่า ข้อมูลขนาดใหญ่ คือการเก็บชุดข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ และค่อนข้างมีความซับซ้อน ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องกัน เหมือนการรวบรวมนำเอาข้อมูลย่อย ๆ เล็ก ๆ หลาย ๆ ชุด นำมาเก็บเอาไว้ด้วยกัน จนกลายเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อการนำเอามาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นข้อมูลที่มีขนาดใหญ่มากเกินกว่าที่ระบบโปรแกรม หรือซอฟต์แวร์ทั่วไปจะประเมินผล และนำเอามาใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งจะต้องอาศัยการพัฒนาหรือการเขียนโปรแกรม สร้างอัลกอริทึมโดยเฉพาะ จึงจะสามารถดึงเอาข้อมูลย่อย ๆ ที่มากมายและซับซ้อนเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ได้ในทางปฏิบัติ

Big Data Analysis

                ตามที่ได้กล่าวไป ถึงแม้ว่ามีการเก็บข้อมูลขนาดใหญ่และเป็นจำนวนมากก็จริง แต่หากไม่นำข้อมูลเหล่านั้นมาสกัด กลั่นกรอง นำมาวิเคราะห์เพื่อใช้งาน ข้อมูลเหล่านั้นก็จะถูกเก็บไว้โดยเปล่าประโยชน์ Big Data Analysis จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ และเป็นองค์ประกอบที่จะทำให้การใช้งาน Big Data เกิดความสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อการนำไปใช้นั้น สิ่งสำคัญก็คือการหารูปแบบความสัมพันธ์ของข้อมูลในแต่ละชุด ที่ทำให้ข้อมูลในระดับย่อย ๆ เชื่อมโยงเข้าด้วยกัน กลายเป็นความสัมพันธ์ของชุดข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งหากสามารถแกะและมองเห็นกุญแจที่เชื่อมความสัมพันธ์ดังกล่าวไว้ด้วยกันได้ ก็จะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ ในการนำมาวิเคราะห์ปัจจัยทางด้านธุรกิจ สังคม แนวโน้มการตลาด ช่วยในการตัดสินใจ ให้เราสามารถเลือกใช้กลยุทธ์ มาทำให้การดำเนินธุรกิจได้เปรียบและอยู่เหนือคู่แข่งทางการตลาดได้

ปัจจุบันนั้นได้มีหน่วยงานและองค์กรชั้นนำ ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากให้เป็นระบบ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการใช้ประโยชน์ในด้านธุรกิจ หรือเพื่อความได้เปรียบในการแข่งขันเชิงการตลาดเท่านั้น แต่ยังจัดเก็บและนำเอาข้อมูลขนาดใหญ่ที่ว่านี้มาใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ได้แก่ การจัดเก็บข้อมูลเพื่อแก้ปัญหาด้านประชากรและด้านสังคม ด้านดาราศาสตร์ การวิเคราะห์และพยากรณ์สภาพอากาศ งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่มีความซับซ้อนทางด้านเคมี ชีววิทยา ไปจนถึงการจัดเก็บข้อมูลทางด้านการเมืองและด้านการทหาร เป็นต้น น

 

Continue Reading

วิวัฒนาการของระบบสั่งงานด้วยเสียงในปัจจุบันแม่นยำแค่ไหน

                เนื่องด้วยความต้องการความสะดวกสะบายและความต้องการตัวช่วย ให้ชีวิตของคนเราง่ายดายขึ้น ทำให้มนุษย์พยายามที่จะประดิษฐ์คิดค้นเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวก สร้างความบันเทิงและเป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารที่ ทำให้เรื่องต่าง ๆ ในยุคนี้ง่ายดายเพียงแค่ปลายนิ้ว และก็ไม่ใช่เพียงปลายนิ้ว หรือการสัมผัสเพื่อการสั่งงานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เนื่องด้วยความก้าวล้ำทางเทคโนโลยี ทำให้มีระบบการสั่งงานด้วยเสียงเกิดขึ้น เพื่อความสะดวกไปอีกขั้น ระบบนี้มีวิวัฒนาการอย่างไร และในปัจจุบันมีความแม่นยำและนิยมใช้กันแค่ไหน เราไปดูกัน

วิวัฒนาการของระบบสั่งงานด้วยเสียง

                วิวัฒนาการของระบบสั่งงานด้วยเสียง ที่ทำให้ทุกคนที่ชื่นชอบการใช้เทคโนโลยีรู้จักกันอย่างแพร่หลาย ปฏิเสธไม่ได้ว่าก็คือฟังก์ชันการใช้งานในโทรศัพท์ไอโฟนอย่าง Siri ที่เมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว ทาง Apple พยายามออกแบบระบบสั่งงานด้วยเสียงให้แฟน ๆ ระบบ iOS ทั่วโลกได้ทดลองใช้กัน เพราะไม่ว่าจะสั่งงานด้วยสำเนียงใดก็ตาม ก็สามารถออกคำสั่งให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากค่ายแอปเปิล ทำงานได้ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถาม เปิดเพลง ระบบความบันเทิง เปิดแผนที่หรือหาสิ่งที่ต้องการต่าง ๆ ได้จากโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต จนต่อมาหลาย ๆ บริษัทก็ได้นำเอาไอเดียนี้มาต่อยอดพัฒนากันอีกมากมาย ซึ่งไม่เพียงแต่โทรศัพท์มือถือเท่านั้นปัจจุบันผู้ผลิตต่าง ๆ ก็ได้นำเอาระบบการสั่งงานด้วยเสียงมาใช้กับอุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ มากมาย เช่น การนำเอาระบบสั่งงานด้วยเสียงมาใช้ในรถยนต์ รวมไปถึงการสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในบ้านอัจฉริยะยุคใหม่ ที่เรียกกันว่า Smart Home นั่นเอง

การเปลี่ยนเสียงพูดให้เป็นข้อความ

                นอกจากการใช้เสียงสั่งงานแล้ว เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการใช้งานต่าง ๆ โดยเฉพาะการสื่อสารผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างโทรศัพท์มือถือ ยังได้มีการคิดค้นและการพัฒนาเทคโนโลยีการเปลี่ยนเสียงพูดให้เป็นข้อความ เพื่อให้ง่ายต่อการสื่อสารไปจนถึงการแปล เพื่อให้ผู้ใช้งานมีความสะดวกในขณะที่ไม่สามารถใช้แป้นพิมพ์ พิมพ์ข้อความเพื่อการสื่อสารได้ ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีนี้ก็เริ่มได้รับความนิยมและใช้งานกันอย่างแพร่หลายแล้ว ในหมู่ผู้ใช้ที่ชื่อชอบการแชทผ่านโลกออนไลน์ โดยเฉพาะผู้ใช้งานโทรศัพท์ระบบแอนดรอยด์ ที่ดูเหมือนจะตอบรับกับฟังก์ชันการใช้งานที่ว่านี้กันเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตามระบบสั่งงานด้วยเสียงในรูปแบบต่าง ๆ ก็ต้องอาศัยการพัฒนาและเขียนอัลกอริทึมการแปลงเสียงพูดให้กลายเป็นคำสั่ง หรือการแปลงคำพูดให้กลายเป็นข้อความให้มีความแม่นยำมากขึ้น เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการใช้งานฟังก์ชันนี้ ให้มีคุณภาพและตอบสนองการใช้งานจริงได้อย่างไม่มีความผิดเพี้ยนมากที่สุด            

 

Continue Reading

เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ ความก้าวล้ำของวิวัฒนาการทางเทคโนโลยี

ในยุคที่ผู้คนให้ความสนใจกับเทคโนโลยีของระบบสื่อสารออนไลน์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กันเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้ เนื่องจากมีการพัฒนาไปอย่างล้ำหน้าและน่าสนใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังนำไปสู่การใช้ประโยชน์หลาย ๆ ด้านได้ในอนาคต นั่นก็คือเทคโนโลยีด้านงานพิมพ์ ที่ปัจจุบันมีความรุดหน้าขึ้นไปสู่การเทคโนโลยีการพิมพ์ในรูปแบบ 3 มิติ

การทำงานของเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ

                ระบบการพิมพ์ของเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิตินั้น มีหลายระบบและหลากหลายรูปแบบของเครื่องพิมพ์ ซึ่งหลักการของการพิมพ์ให้ได้วัตถุและรูปร่างออกมาในลักษณะ 3 มิติ ก็คือการสร้างวัตถุขึ้นมาจากไฟล์ที่จำลองเป็นรูปแบบ 3 มิติ โดยเป็นการสร้างวัตถุตามแบบ 3 มิติที่ออกแบบไว้ขึ้นมาทีละชิ้นประกอบกัน ซึ่งระบบเทคโนโลยีงานพิมพ์ 3 มิติที่เป็นที่รู้จักและนิยมใช้ ได้แก่

  • ระบบ Fuse Deposition Modeling เป็นระบบงานพิมพ์ที่ใช้ความร้อนในการทำละลายวัตถุ จากนั้นก็ฉีดออกมาลากไปตามเส้นเป็นของวัสดุเป็นชั้น ๆ ตามรูปร่างและรูปแบบที่ได้ทำการออกแบบไว้ในโปรแกรม โดยเมื่อวัตถุที่ละลายด้วยความร้อนถูกฉีดออกมา ก็จะเย็นตัวและแข็งออกมาเป็นวัตถุในรูปร่าง 3 มิติ
  • ระบบ Stereo lithography and Digital Light Processing เป็นการสร้างงาน 3 มิติขึ้นมาจากเรซินเหลว โดยใช้แสงเป็นตัวตัดชิ้นงานเป็นรูปร่าง และทำให้ชิ้นงานแข็งตัวเป็นชั้น ๆ
  • ระบบ Selective Laser Sintering เป็นการขึ้นรูปงานพิมพ์ 3 มิติ โดยใช้เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ โดยแสงเลเซอร์จะไปทำละลาย และขึ้นรูปจากผงวัสดุที่ใช้สำหรับงานพิมพ์

เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิตินำไปใช้ประโยชน์ในด้านใดได้บ้าง

                ปัจจุบันได้มีการนำเอาเทคโนโลยีงานพิมพ์ในระบบต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์ในงานด้านต่าง ๆ มากมาย ทั้งการสร้างโมเดลรูปแบบจำลองของงานด้าน 3 มิติ อย่างเช่น รูปแบบจำลองของการออกแบบเครื่องประดับ อัญมณี โครงสร้างของบ้าน โครงการ ตึก สิ่งปลูกสร้าง การผลิตข้าวของเครื่องใช้ประเภทเครื่องเซรามิกต่าง ๆ โมเดลจำลองของยานพาหนะ ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์กลไกสำหรับชิ้นส่วนที่ยากต่อการออกแบบ อย่างเช่นยานอวกาศ ไปจนถึงการสร้างโครงสร้างเพื่อการปลูกถ่ายอวัยวะ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีนี้ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในทุก ๆ สายงาน ไปจนถึงสายงานทางด้านการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับร่างกายของมนุษย์ ซึ่งถึงแม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะก้าวหน้ามากขึ้นอย่างมาก ก็ต้องอาศัยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้งานพิมพ์ 3 มิติมีความแม่นยำมากที่สุด    

                เชื่อว่าในอนาคตเราจะได้เห็นการนำเอาเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติมาใช้ประโยชน์ด้านต่าง ๆ กันอย่างแพร่หลาย และเชื่อว่าเทคโนโลยีที่พัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในทุก ๆ วัน จะทำให้มนุษย์มีความสะดวกสบาย รวมไปถึงช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น

 

Continue Reading

Autopilot ระบบช่วยขับขี่ของยานพาหนะยุคใหม่

เมื่อพูดถึงเรื่องของ Autopilot หรือระบบการบินอัตโนมัติ หลายคนก็คงจะบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรนี่ เพราะในทางการบินนั้น ก็มีการใช้ระบบนี้มาตั้งนานแล้ว ซึ่งก็เป็นความจริง แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ นอกจากเครื่องบินแล้วในปัจจุบันยังได้มีการคิดค้นและพัฒนาเพื่อนำเอาระบบ Autopilot นี้มาใช้งานเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับการขับขี่ให้กับยานพาหนะชนิดอื่น อย่างเช่นรถยนต์ส่วนบุคคลด้วย จะเป็นอย่างไร เราไปติดตามและอัพเดตข่าวคราวทางด้านเทคโนโลยีชนิดนี้กัน

ระบบ Autopilot ของเครื่องบิน

                ก่อนอื่นมารู้จัก และมาทำความเข้าใจกับระบบ Autopilot ของเครื่องบินกันมากขึ้นก่อน ระบบ Autopilot หลัก ๆ ก็คือระบบนำทางของเครื่องบิน เพื่อช่วยให้เครื่องบินเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างถูกต้องแม่นยำและปลอดภัย ซึ่งในเครื่องบินแต่ละลำก็จะมีการติดตั้งระบบ Autopilot ที่มีลักษณะเฉพาะแตกต่างกันไป และสิ่งที่สำคัญก็คือ ถึงแม้ว่าเครื่องบินจะมีระบบ Autopilot ก็ยังคงต้องอาศัยการทำงานของนักบินและผู้ช่วยในการกำหนดค่าต่าง ๆ รวมถึงต้องคอยสังเกตการณ์เมื่อมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น หรือจำเป็นต้องเปลี่ยนทิศทางการบิน โดยระบบ Autopilot ของเครื่องบินส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วย 4 ระบบได้แก่ ระบบตั้งค่าทิศทางการบิน ระบบ Navigation  ระบบควบคุมความสูงของตัวเครื่องบิน เพื่อให้เครื่องบินสามารถไต่ระดับหรือลดระดับความสูงได้อย่างอัตโนมัติ ใครที่นั่งเครื่องบินบ่อย ๆ คงจะคุ้นหูกับการที่กัปตันประกาศว่า ขณะนี้เราอยู่ที่ระดับความสูงเท่านั้นเท่านี้ และระบบช่วยคำนวณในการนำเครื่องขึ้นและจอดเพื่อให้เครื่องบิน แลนดิ้งและเทคออฟ นำผู้โดยสารไปถึงที่หมายได้อย่างสวัสดิภาพ

การนำระบบ Autopilot มาใช้ขับเคลื่อนยานพาหนะชนิดอื่น

                ในปัจจุบันด้วยความก้าวหน้า และการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ไม่เคยหยุดยั้ง ทำให้บริษัทรถยนต์หลายบริษัทพยายามพัฒนาระบบการขับขี่อัตโนมัติ ซึ่งมีความคล้ายกับระบบ Autopilot ของเครื่องบิน มาใช้เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์ในการขับขี่รถยนต์กันมากขึ้น แต่ระบบเหล่านั้นยังไม่ใช่ระบบ Autopilot หรือการควบคุมการขับขี่อัตโนมัติเสียทีเดียว แต่เป็นระบบช่วยเหลือคนขับที่เรียกว่า Self – assisted Driving เสียมากกว่า ตัวอย่างเช่น บริษัท Telsa ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน ที่ได้นำเอาระบบนี้มาทดลองได้แล้ว แต่ก็ยังเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนขึ้น ทำให้ต้องเปลี่ยนการเรียกระบบการขับอัตโนมัติ ที่เคยใช้เรียกก่อนหน้า มาเป็นการใช้คำว่าระบบช่วยขับแทน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความสับสน เนื่องจากคนขับยังมีความจำเป็นที่จะต้องควบคุมพวงมาลัยอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีเทคโนโลยีนี้ช่วยก็ตาม ก็ไม่ได้เป็นระบบที่รถยนต์สามารถขับขี่ได้เองโดยไม่ต้องมีคนขับ ซึ่งสุ่มเสี่ยงที่จะสร้างความสับสน และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

 

Continue Reading

รถไฟฟ้าขัดข้อง เกี่ยวข้องกับคลื่นมือถืออย่างไร?

                จากสถานการณ์รถไฟฟ้า BTS ขัดข้องบ่อยติดต่อกันหลายวันจนผิดสังเกตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สร้างความไม่พอใจให้กับคนทำงานในเมืองกรุงที่ต้องพึ่งพาระบบขนส่งมวลชนหงุดหงิดไม่สบอารมณ์ไปตาม ๆ กัน และก็พากันสงสัยถึงระบบการทำงาน ว่าทำไมถึงปล่อยให้ระบบเดินรถสาธารณะที่มีผู้คนใช้งานเป็นจำนวนมาก ขัดข้องบ่อยกว่าที่ควรจะเป็น จนกระทบกับชีวิตประจำวันของประชาชน ซึ่งในที่สุดก็ทราบสาเหตุว่าความขัดข้องในครั้งนี้ เกิดจากคลื่นสัญญาณรบกวนกัน ซึ่งมีสาเหตุมาจากคลื่นสัญญาณโทรศัพท์มือถือ แล้วมันเกี่ยวอะไรกัน มันเกิดขึ้นได้อย่างไร วันนี้เราจะพาคุณมาไขข้อข้องใจกัน

การทำงานของรถไฟฟ้าเกี่ยวข้องกับคลื่นความถี่อย่างไร  

                ในการทำงานและการเดินรถของระบบรถไฟฟ้านั้นจะใช้การสื่อสารแบบไร้สายเพื่อใช้ควบคุมการเดินรถเพื่อส่งตำแหน่งของรถไฟฟ้าทุกคันไปให้ศูนย์ควบคุมทราบ รวมถึงรถแต่ละคนจะต้องทราบตำแหน่งของรถคันหน้าเพื่อการเว้นระยะที่ปลอดภัย ซึ่งคลื่นความถี่ที่รถไฟฟ้า BTS ใช้ในการควบคุมการสั่งการก็คือคลื่น 2400 MHz นั่นเอง ซึ่งตั้งแต่ในอดีตรถไฟฟ้า BTS ไม่ได้มีการสร้างระบบป้องกันการรบกวนสำหรับการใช้งานคลื่น 2400 MHz ที่ว่านี้        

คลื่นมือถือกระทบการทำงานของรถไฟฟ้าได้อย่างไร         

เนื่องจากเทคโนโลยีของระบบสื่อสารไร้สาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้คลื่นความถี่เพื่อส่งสัญญาณควบคุมระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ โดยเฉพาะการส่งผ่านข้อมูลของระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ ปัจจุบันค่ายมือถือดีแทคได้มีการใช้คลื่นความถี่ 2300 MHz ในการทดสอบการส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ต โดยทำการทดลองใช้คลื่น 2300 MHz ที่ได้มีการติดตั้งสถานีฐานบนเส้นทางเดินรถไฟฟ้า 20 สถานี ซึ่งเป็นข้อสันนิษฐานว่า ทำให้เกิดการรบกวนกับของคลื่นความถี่ที่อยู่ในช่วงคลื่นใกล้กัน และอีกหนึ่งสาเหตุก็น่าจะเกิดจากการที่ปัจจุบันคลื่นความถี่ 2400 MHz เป็นคลื่นความถี่เสรีที่เปิดให้มีการใช้ส่งสัญญาณไวไฟได้ ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการรบกวนกันของสัญญาณ ซึ่งส่งผลให้ระบบการเดินรถของรถไฟฟ้า BTS ขัดข้อง ซึ่งล่าสุดทาง DTAC ก็ได้ปิดการปล่อยสัญญาณบนคลื่นดังกล่าวแล้ว

จากข่าวคราวความคืบหน้าล่าสุด (27 มิ.ย. 2561) ทาง กสทช. หน่วยงานดูแลและกำกับด้านคลื่นความถี่ของประเทศไทย ได้ออกมาแถลงว่าสาเหตุที่ทำให้รถไฟฟ้า BTS ขัดข้องในครั้งนี้ เกิดขึ้นเนื่องมาจากการส่งสัญญาณคลื่นความถี่ของโทรศัพท์มือถือ รบกวนการทำงานของระบบรถไฟฟ้าจริง และแนะนำให้ทาง BTS ย้ายช่วงคลื่นความถี่ใช้ในการส่งสัญญาณ เพื่อควบคุมการเดินรถให้ห่างจากช่วงคลื่น 2300 MHz ของดีแทคมากที่สุด และในระหว่างนี้ก็ให้ทางค่ายมือถืองดทดลองการส่งสัญญาณ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขัดข้องของรถไฟฟ้าเกิดขึ้นด้วยสาเหตุนี้อีก

 

Continue Reading

ขยะพลาสติก ภัยร้ายต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม

                จากข่าวคราวที่หลายคนได้รู้และได้ทราบเรื่อง ก็เชื่อว่าย่อมสลดใจไปตาม ๆ กัน เมื่อมีคนไปพบกับเจ้าปลาวาฬเกยตื้น อยู่ที่ริมชายหาดของทะเลสาบฝั่งสงขลา ในประเทศไทยของเรา ที่ถึงแม้ว่าทีมแพทย์จะใช้ความพยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่ ก็ไม่สามารถที่จะยื้อชีวิตของสัตว์ใหญ่ ที่เป็นหนึ่งในจ้าวทะเลตัวนี้ไว้ได้ และที่น่าสลดใจกว่าคือ เมื่อชันสูตรดูแล้วพบว่าสาเหตุที่ทำให้เจ้าปลาวาฬป่วยจนต้องเกยตื้นขึ้นมานั้น ก็เนื่องมาจากปลาวาฬได้กินขยะพลาสติกที่อยู่ในท้องทะเลเข้าไปเป็นจำนวนมากถึง 8 กิโลกรัม รวมถึงก่อนตายยังได้ขย่อนซากขยะพลาสติกออกมา ทำให้ทราบสาเหตุการเสียชีวิตของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ใหญ่ที่สุดตัวนี้ และด้วยเหตุนี้เองทำให้องค์กรหลายภาคส่วนในประเทศไทยเริ่มรณรงค์และให้ความสำคัญกับเรื่องของขยะพลาสติกกันอย่างจริงจัง

ทำไมพลาสติกถึงเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม  

                พลาสติก เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มนุษย์ของเราผลิตขึ้นมา เพื่อใช้แทนวัสดุธรรมชาติ ซึ่งมีรูปแบบมากมายหลายชนิด สารประกอบอินทรีย์ชนิดนี้จะมีคุณสมบัติเฉพาะบางประการ คือเมื่อถูกความร้อนจะอ่อนตัว และเมื่อถูกความเย็นมักจะแข็งตัว ขึ้นอยู่กับส่วนผสมที่ใช้และการออกแบบของโมเลกุลของพลาสติก ซึ่งข้อดีของพลาสติกก็คือ เมื่อใช้งานแล้วก็สามารถนำเอามาหลอมเพื่อผลิตขึ้นมาเป็นวัสดุชิ้นใหม่ได้ แต่ในความเป็นจริงที่เราใช้กัน ขยะพลาสติกมักเป็นสิ่งที่ใช้แล้วทิ้งทันที ไม่ค่อยจะนำเอากลับมาใช้ใหม่ จนสุดท้ายก็กลายเป็นขยะล้นประเทศ เนื่องจากไม่มีระบบและเทคโนโลยีการจัดการวัสดุประเภทนี้ที่ดีเท่าที่ควร ทำให้เกิดผลกระทบต่อชีวิตสัตว์ สิ่งแวดล้อม เกิดเป็นปัญหามลภาวะอย่างที่เห็นกันได้ชัดเจนในปัจจุบัน

ใช้พลาสติกอย่างไรไม่ให้เป็นอันตราย

                ปัจจุบันในหลาย ๆ ประเทศได้มีการผลิตถุงพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ขึ้นมาเพื่อเป็นการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม เนื่องจากพลาสติกประเภทนี้สามารถย่อยสลายได้เช่นเดียวกับกระดาษ หรือวัสดุที่ทำจากธรรมชาติ การแยกขยะพลาสติกที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และการลดใช้พลาสติกในร้านค้าหรือแหล่งสถานบริการต่าง ๆ อย่างเช่นในหลาย ๆ ประเทศ ที่หากต้องการถุงพลาสติกจะต้องจ่ายเงินซื้อเพิ่ม ซึ่งก็จะช่วยลดการใช้พลาสติกได้เป็นอย่างมาก ในประเทศไทยของเราก็เช่นเดียวกัน ที่ในปัจจุบันได้เริ่มมีมาตรการให้สิทธิประโยชน์สำหรับลูกค้าที่ไม่ใช้ถุงพลาสติก เพื่อเป็นการเริ่มต้นลดถุงพลาสติกอย่างจริงจัง

                คงต้องติดตามกันต่อไปว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จะทำให้ประเทศไทยของเราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคในการลดการใช้ถุงพลาสติกลงได้หรือไม่ หรือองค์และหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนจะมีมาตรการใดที่ทำให้การใช้ถุงพลาสติกลดน้อยลงได้อย่างเห็นผล

 

Continue Reading

แฮกเกอร์ ปัญหากวนใจตั้งแต่เรื่องเล็กไปถึงเรื่องใหญ่

                 ในโลกที่เทคโนโลยีเป็นเรื่องง่าย ที่ใคร ๆ ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ง่ายขึ้น และดูเหมือนว่าเรื่องส่วนตัวหรือความลับก็จะไม่กลายเป็นความลับอีกต่อไป ซึ่งจริงอยู่ว่าบางเรื่องไม่ใช่เรื่องใหญ่ และบางคนก็อยากให้คนอื่นรู้เรื่องส่วนตัวของตัวเองด้วยซ้ำ ด้วยการโพสเรื่องราวส่วนตัวลงในช่องทางโซเชียลมีเดีย แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่มีชอบใจให้เรื่องส่วนตัวของตัวเองกลายเป็นเรื่องสาธารณะ ไม่เพียงเรื่องส่วนบุคคล การทำธุรกิจ การเก็บข้อมูลของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ก็ต้องเป็นข้อมูลที่จัดเก็บในระบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วยระบบการป้องกันอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลสำคัญหรือข้อมูลที่เป็นความลับไปอยู่ในมือของผู้ที่ไม่ประสงค์ดี ของอาชญากรหรือมิจฉาชีพที่นิยมเรียกกันว่าแฮกเกอร์ เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงได้ในอนาคต

ความหมายของแฮกเกอร์

                แฮกเกอร์ ผู้โจรกรรมข้อมูล หรือที่บางแหล่งเรียกกันว่านักเลงคอมพิวเตอร์ หมายถึงผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ โปรแกรม โลกออนไลน์หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งคำว่าผู้เชี่ยวชาญในความหมายของแฮกเกอร์นั้น สุ่มเสี่ยงไปในทางที่ไม่ดีนัก เนื่องจากคำว่าแฮกเกอร์เป็นคำที่ใช้เรียกผู้เชี่ยวชาญที่คอยโจรกรรมข้อมูล รหัส หรือความเป็นส่วนตัวของบุคคล หน่วยงาน บริษัท องค์กรเพื่อประโยชน์ในทางไม่ชอบ ซึ่งแฮกเกอร์นั้นสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวิธีการและขั้นตอนการแฮก ตั้งแต่การเดารหัสผ่าน การแฝงตัวเข้ามาในโปรแกรมหรือหน้าเว็บต่าง ๆ ในช่องทางออนไลน์ ไปจนถึงการโจมตีระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือแหล่งเก็บข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ด้วยไวรัส สแปม หรือมัลแวร์ต่าง ๆ เป็นต้น

แฮกเกอร์ได้ประโยชน์อะไร

                ตามที่ได้กล่าวไปการแฮกหรือการโจรกรรมข้อมูลมีตั้งแต่ภาพเล็ก คือเรื่องส่วนบุคคลไปจนถึงภาพใหญ่ในเรื่องของข้อมูลระดับโลก ที่มีผลต่อทั้งระบบเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของแต่ละประเทศ ในเรื่องที่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องใหญ่มากแต่ก็สร้างความยุ่งยากรำคาญใจก็อย่างเช่น การโดนแฮกอีเมล์ รหัสผ่านของโซเชียลมีเดีย เพื่อการโฆษณาสินค้าหรือสร้างความเสื่อมเสีย การโจรกรรมเข้าไปลบข้อมูลที่สำคัญ หรือขั้นร้ายแรงอย่างเช่นการขโมยข้อมูลส่วนตัวด้านการเงิน การเข้าสู่ระบบธนาคารออนไลน์ รหัสบัตรเครดิต การเผยแพร่ข้อมูลความลับขององค์กรหรือหน่วยงานรัฐบาลออกสู่สาธารณะชน หรือแฮกเข้ามาเผยแพร่ข้อมูลเพื่อดิสเครดิตหรือสร้างความเสื่อมเสีย ลดความน่าเชื่อถือขององค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ

การโจรกรรมข้อมูลจึงเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนต้องให้ความสำคัญในโลกดิจิตอล ที่การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยุ่งยากอีกต่อไป รวมถึงยังมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีรุ่นใหม่ก็เกิดขึ้นเรื่อย ๆ ในทุก ๆ วัน ซึ่งหากพวกเขาเหล่านั้นนำความรู้ความสามารถไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องแล้วละก็ อาจจะทำให้ความเสียหายใหญ่หลวงเกิดขึ้นได้

 

Continue Reading

การปรับเปลี่ยนพันธุกรรมความฝันหรือความจริงในอนาคตอันใกล้

                คนที่ชอบดูละคร ภาพยนตร์ หรือซีรีย์ฝรั่ง เชื่อว่าคงจะเคยดูหนังเกี่ยวกับซอมบี้ หรือในยุคที่โลกมนุษย์ต้องเจอกับโรคร้ายแรงที่คร่าชีวิตของประชากรบนโลกเราไปเป็นจำนวนมาก รวมถึงโรคเหล่านี้ยังสามารถแพร่กระจายและติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นจากมนุษย์ด้วยกันเอง หรือระหว่างสัตว์กับมนุษย์ ซึ่งจริงอยู่ว่าเรื่องราวเหล่านั้นอาจจะเป็นจินตนาการที่อยู่ในแค่แผ่นฟิล์ม แต่ก็ไม่เสมอไป เพราะในความเป็นจริงปัจจุบันเชื้อโรคต่าง ๆ ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ อาการและความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการที่มนุษย์หรือสัตว์จะสามารถเกิดโรคเหล่านั้นขึ้นได้หรือไม่ ก็เกี่ยวข้องกับเรื่องของพันธุกรรม วันนี้เราจึงจะพาคุณไปรู้จักกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการปรับเปลี่ยนพันธุกรรม ว่าในอนาคตจะมีความเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน และในปัจจุบันวิทยาศาสตร์แขนงนี้ได้ก้าวหน้าไปถึงไหนกันแล้ว

ความหมายของการปรับเปลี่ยนพันธุกรรม

                การปรับเปลี่ยนพันธุกรรม หรือที่เรียกกันเป็นทางการได้ว่า พันธุวิศวกรรม คือการปรับเปลี่ยนดีเอ็นเอของสิ่งมีชีวิต โดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพเข้ามาทำการแยกและคัดลอกเซลล์ที่น่าสนใจ โดยใช้วิธีการโคลนนิ่งโมเลกุลของเซลล์ขึ้นมา หลังจากนั้นก็ทำการแทรกดีเอ็นเอของเซลล์ที่ทำการโคลนนิ่งหรือสังเคราะห์ขึ้นมาได้ เข้าไปยังสิ่งมีชีวิตที่ทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพ ซึ่งในขณะเดียวกันดีเอ็นเอหรือยีนส์ภายในสิ่งมีชีวิตที่เป็นเจ้าภาพ อาจจะถูกลบออกไป ซึ่งสิ่งมีชีวิตเจ้าภาพเหล่านี้จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม จึงทำให้เทคโนโลยีชีวภาพที่เรียกว่าพันธุวิศวกรรมนี้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในหลายแขนง โดยเฉพาะในการเกษตรกรรม ปศุสัตว์ และทางด้านการแพทย์

ประโยชน์ของการปรับเปลี่ยนพันธุกรรม

  • การเกษตร ปัจจุบันได้มีการนำเอาการปรับเปลี่ยนพันธุกรรมมาใช้ในด้านการเกษตร เพื่อการพัฒนาสายพันธุ์ ผสมพันธุ์พืช และการเพิ่มผลผลิต ตัวอย่างเช่น การพัฒนาพันธุ์ข้าวให้มีความทนทานต่อแมลงและศัตรูพืช ปรับแต่งพันธุกรรมให้พืชผลจำพวกข้าวโพด กล้วย มันเทศ มันสำปะหลัง ซึ่งเป็นพืชผลที่นิยมนำมาแปรรูปเป็นอาหาร ทำให้มีวิตามินและแร่ธาตุมากขึ้น เพื่อช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนอาหาร และแก้ไขปัญหาเรื่องสุขภาพให้กับประชากรในประเทศต่าง ๆ
  • การแพทย์ ปัจจุบันได้มีการนำเอาพันธุวิศวกรรมมาใช้ในด้านยา และด้านการแพทย์แล้วในหลายประเทศ ได้แก่ การนำเอาพิษของสัตว์มาสร้างเป็นภูมิคุ้มกันโรคให้กับร่างกายมนุษย์ หรือสัตว์ชนิดอื่น การเปลี่ยนถ่ายเซลล์หรือเนื้อเยื่อของร่างกายมนุษย์ที่บกพร่องหรือถูกทำลาย การนำมาสร้างเป็นฮอร์โมนเพื่อแก้ปัญหาเรื่องโรคของมนุษย์ เป็นต้น

                ล่าสุดได้เริ่มมีการทดลองใช้การปรับเปลี่ยนพันธุกรรมเพื่อให้ลูกหมูสามารถต้านทานโรคปอดได้ แต่ก็ยังเป็นข้อถกเถียงกันว่า การตัดแต่งพันธุกรรมลักษณะนี้เป็นสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่ แต่สุดท้ายแล้วเราก็ยังเชื่อว่า ทั้งหมดจะคงทำเพื่อผลประโยชน์ต่อมนุษย์ ต่อโลกใบนี้นั่นเอง

 

Continue Reading

AI ปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่หุ่นยนต์

                ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ทำให้ปัจจุบันได้มีการประดิษฐ์ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ในรูปแบบต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งเพื่อความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร ความบันเทิง และประโยชน์ใช้งานในภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจ และบริการต่าง ๆ ซึ่งหนึ่งในเทคโนโลยีที่เริ่มจะคุ้นหูและได้ยินกันอย่างแพร่หลาย ก็คือปัญญาประดิษฐ์ หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกกันสั้น ๆ ว่า AI ซึ่งหลายคนได้ยินคำนี้แล้วอาจจะติดกับคำว่า AI ต้องคือ Robot หรือหุ่นยนต์เท่านั้น แต่ความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ AI หรือปัญญาประดิษฐ์กันมากขึ้น

AI คืออะไร

                AI ย่อมาจาก Artificial Intelligence ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า ปัญญาประดิษฐ์ เป็นศาสตร์ที่ใช้หลักการของวิศวกรรมและคอมพิวเตอร์เป็นหลัก เพื่อสร้างความฉลาดให้กับสิ่งที่ไม่มีชีวิต เมื่ออธิบายอย่างนี้เชื่อว่าหลายคนคงจะร้องอ๋อและเห็นภาพกันได้ง่ายขึ้น การสร้างความฉลาดให้กับสิ่งไม่มีชีวิตก็คือการออกแบบโปรแกรม กระบวนการ ฟังก์ชันการทำงาน การคิดคำนวณ การออกแบบ ประเมินผล การแก้ไขปัญหา ไปจนถึงความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ  โดยใส่ข้อมูล หลักการ ตรรกะการทำงาน ความน่าจะเป็นลงไป คล้าย ๆ กับหลักการคิดของสมองคนแต่กลับยำเอาไปใส่ในคอมพิวเตอร์ โปรแกรม ซอฟต์แวร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ นั่นเอง    

การนำ AI มาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน

                 ปัจจุบันได้มีการสร้างโปรแกรม ซอฟต์แวร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตามหลักการของปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เพื่อช่วยในการคำนวณ ประเมินผล และช่วยในการตัดสินใจต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งการนำเอาโปรแกรมมาบรรจุลงใน Robot หรือหุ่นยนต์ เพื่อใช้ควบคุมการทำงานของระบบให้ส่งคำสั่ง เพื่อดำเนินการช่วยเหลือและทำงานแทนมนุษย์ได้ตามต้องการ ทั้งในรูปแบบเครื่องจักร อุปกรณ์ ยานพาหนะ ไปจนถึงหุ่นยนต์ที่มีการสร้างและออกแบบมาให้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนหรือมีการเคลื่อนที่ และมีลักษณะท่าทางเหมือนมนุษย์มากที่สุด ไม่เพียงเท่านั้นในทุกภาคส่วนยังมีการนำเอา AI มาใช้เพื่อการขับเคลื่อนธุรกิจ ไปจนถึงการแก้ปัญหาต่าง ๆ อาทิเช่น การนำ AI เข้ามาช่วยเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อเก็บข้อมูลของลูกค้า หรือกลุ่มผู้บริโภค เป้าหมายเพื่อให้ภาคธุรกิจรู้เทรนด์ความต้องการและสามารถนำเสนอสินค้า และบริการได้ตรงกับราคา และความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้น

การนำ AI มาช่วยวิเคราะห์และตัดสินใจสำหรับการลงทุน ซึ่งเชื่อว่าปัญญาประดิษฐ์ที่มีการป้อนข้อมูล ตรรกะและวิธีการคิดที่ถูกต้อง จะช่วยให้การตัดสินใจมีความถูกต้องและแม่นยำกว่าการตัดสินใจของมนุษย์ ไปจนถึงปัจจุบันยังได้มีการนำเอาปัญญาประดิษฐ์มาช่วยแก้ปัญหาความอดอยาก และความขาดแคลนของประชากรในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อช่วยประเมินสถานการณ์และตัดสินใจในการลงทุนเพาะปลูกพืชผลของเกษตรกร และช่วยเหลือในเรื่องของการพยากรณ์อากาศเหล่านี้เป็นต้น

ก็คงจะต้องติดตามกันต่อไปว่าด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในอนาคต จะทำให้เราได้เห็นการนำเอา AI หรือปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในรูปแบบใดอีกบ้าง

 

Continue Reading